5 นิสัยห่วยๆอย่าทำในที่ทำงาน..ใครอีกหลายๆคนไม่รู้สึกตัว

[Jenny937]

หลายองค์กรให้คะแนนงานบุคลากรกันเป็นรายปี แต่ว่าก็มีบางแห่งจัดกันปีละ 2 ครั้ง

เพื่อตรวจเช็คการทำงานของพนักงาน รวมถึงความรู้สึกนึกคิด


ซึ่งไม่ได้วัดออกมาเป็นระดับคะแนน หรือความชอบใจ จากการตอบปัญหา "ถูก" หรือ "ไม่ถูก" ที่สำคัญ


สิ่งที่ได้พูดออกไปในระหว่างการประเมินอาจจะประดิษฐ์ หรือ ทำ ล า ย หน้าที่การงานได้เลยทีเดียว

แต่บางบริษัทคิดว่าการวัดผลงานเทศการที่จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปีเกิดเรื่องล้าสมัย

เพราะว่านายจ้างควรประเมินเรื่องอื่นๆทั้งสมรรถนะในการดำเนินการ

การบริการลูกค้า ทีมเวิร์ก ไปจนถึงทัศนคติ ทำให้หลากหลายองค์กรใช้ระบบการให้คำปรึกษาย้อนกลับมา

หรือฟีดแบ็กรวมถึงระบบการสอนงาน หรือผู้ฝึกสอนชิ่งแทน แต่ว่าไม่ว่าหน่วยงานจะใช้การประเมินแบบใด

สิ่งจำเป็นคือพนักงานจะต้องสามารถสื่อ ส า ร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


และมี 5 ประโยคที่ไม่สมควรเอ่ยออกมา เพราะว่าสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดผลลบมากยิ่งกว่า


ซึ่ง cheatsheet.com เขียนถึงหัวข้อนี้ไว้อย่างน่าสนใจ

"นี่ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน"

ประโยคนี้นอกจากจะชี้ให้เห็นว่า ผู้พูดจะต้องแก้ไขมารยาทไม่ให้พูดโผงผางออกมาแล้ว

ควรจะจดจำไว้เหตุว่า การกำหนดหน้าที่งาน หรือ Job Description

มิได้ครอบคลุมหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำทั้งสิ้น 100% แถมยังจะต้องปรับเปลี่ยนตามสภาพธุรกิจอีกด้วย

นายจ้างประทับใจพนักงานที่มีความยืดหยุ่น พร้อมจัดการกับงานหลายๆอย่าง

ด้วยทัศนคติเชิงบวก แต่ถ้าเกิดปรารถนาสะท้อนถึงสิ่งที่จำเป็นที่มากเหลือเกินของนาย

ก็สามารถเลือกใช้ประโยคอื่นๆแทน ได้แก่ "งานเดิมที่ระบุเส้น ต า ย เอาไว้

ทำให้ยังไม่มีจังหวะทำหน้าที่เพิ่มเติม" หรือชี้แจงว่า

คุณไม่สมควรรับผิดชอบงานส่วนนี้ เนื่องจากว่ามีคนอื่นๆที่เหมาะอย่างยิ่งกว่า

"คุณมุ่งหวังจากฉันมากจนเกินความจำเป็น"

แน่นอนว่า นายย่อมมุ่งหวังหลายเรื่อง

ซึ่งอาจก่อให้พนักงานมีความคิดว่าปฏิบัติงานเกินค่าจ้างที่ได้รับ

แต่ว่าการคุ้มครองป้องกันตัวเองมากจนเกินความจำเป็นก็อาจจะไม่ใช่วิธีที่ยอดเยี่ยมที่สุด


ด้วยเหตุผลดังกล่าว การละทนและควบคุมอารมณ์เป็นลู่ทางที่เยี่ยมที่สุด ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอะไร

เพราะว่าการแสดงอารมณ์ออกมาอาจไม่ได้ทำให้อะไรดียิ่งขึ้น

"ฉันทำไม่ได้"

การพูดว่า "ทำไม่ได้" เป็นข้อจำกัด ซึ่งนอกจากผู้พูดจะจำกัดความคิดของตัวเอง

เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้แล้ว ยังให้ความหมายคิดของคนอื่นๆ

รวมทั้งนายเกี่ยวกับความสามารถของผู้พูดด้วย

การพูดประโยคนี้เท่ากับบอกผู้ว่าจ้างว่า คุณขาดทักษะที่จะทำงานให้เสร็จได้

แล้วก็ถ้าหากตอบห้วนๆก็อาจแปลได้ว่า คุณไม่พยายามจะศึกษา ซึ่งจะส่งผลเสียเข้าไปอีก

ด้วยเหตุผลดังกล่าวควรต้องหลีกเลี่ยงไปใช้คำพูดอื่นๆดังเช่นว่า "เราจะทดลองทำเช่นไรดี"

หรือ "นี่เป็นข้อเสนอที่ดี มอบโอกาสฉันได้มีส่วนร่วมที่จะทำให้สำเร็จด้วยคน"

ซึ่งจะเปิดทางให้สามารถหาแผนที่เหมาะสมกับตัวเองได้

"ขอบคุณที่มองเห็นสุดท้าย"

การได้รับคำชื่นชมสำหรับการวัดผลงานนับเป็นความเสร็จในหน้าที่การงานขั้นเล็กๆ

แต่ว่าก็ไม่สมควรหลงระเริงกับคำกล่าวชมนั้น แม้ไม่สามารถต่อกรได้ดิบได้ดีพอเพียง เป็นต้นว่า การกล่าวคำประเภทว่า

"ขอบคุณมากที่สังเกตเห็นท้ายที่สุด" จะก่อให้บรรยากาศกลับอึดอัด

และอาจจะส่งผลให้นายไม่สรรเสริญคุณอีกในอนาคต แค่ขอบพระคุณ

หรืออธิบายถึงความเพียรพยายามที่เป็นเวลายาวนานกว่าจะเสร็จก็น่าจะพอเพียงแล้ว

"ไม่ได้เกียจคร้านนะ ก็แค่ไม่แคร์เพียงแค่นั้น"

นี่เป็นประโยคเด็ดจากภาพยนตร์เรื่อง "สำนักงาน สเปซ" แม้กระนั้นถ้าหากนายจ้างมิได้รู้จัก

เหตุการณ์ข้างหลังกล่าวประโยคนี้ก็จะชวนอึดอัด โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อนายจ้างมองหน้าเพื่อ

ให้อธิบายถึงคำบอกเล่าดังกล่าวที่แสดงถึงความรู้สึกว่าไม่ชอบใจ

รู้เทคนิค 5 ประโยคที่ห้ามพูดแล้ว ก็ทุ่มเททำงานให้เต็มที่

เวลาประเมินผลงานจะได้เปิดใจกับหัวหน้ากันแบบสบายใจ

เผื่อได้ปรับเงินเดือนสูงขึ้น แถมด้วยตำแหน่งใหม่ๆก็ได้ ผู้ใดกันแน่จะไปทราบ!
ที่ทำงาน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13385/
คำค้นหา : นิสัย